คอนกรีตงานก่อสร้างทั่วไป
คุณสมบัติ
คอนกรีตประเภทนี้
ถูกออกแบบส่วนผสมตามค่ากำลังอัดที่อายุ 28 วัน และค่าการยุบตัวสำหรับงานเทคอนกรีตทั่วไป
และงานเทคอนกรีตด้วยปั๊ม โดยส่วนผสมแปรผันตามค่าอัตราส่วนน้ำต่อซีเมนต์ รวมทั้งมีการผสมคอนกรีตด้วยสารลดน้ำและหน่วงการก่อตัว
ตามมาตรฐาน ASTM C 494 ทำให้คอนกรีตมีความสามารถในการทำงานได้ที่เพิ่มขึ้น
รวมถึงระยะเวลาการทำงานสำหรับงานคอนกรีตที่นานขึ้น
ขั้นตอนการทำงาน
คอนกรีตชนิดนี้เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป
และงานเทคอนกรีตที่ต้องใช้คอนกรีตปั๊ม อาทิเช่น อาคารพาณิชย์ บ้านเดี่ยว ทาวเฮาส์
ตึกสูง งานถนน พื้นโรงงาน และลานจอดรถ ที่มีค่าอัตราส่วนน้ำต่อซีเมนต์และค่าการพัฒนากำลังที่เหมาะสมต่อการก่อ
สร้างโครงสร้างทั่วไป ค่ากำลังอัดของคอนกรีตมีให้เลือกตั้งแต่ 180-450 กก./ตร.ซม.
ที่อายุ 28 วัน สำหรับค่าความยุบตัวขนาดต่าง
ๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ รวมไปถึงคอนกรีตหยาบที่ไม่รับรองค่ากำลังอัด
ข้อแนะนำ
1. หลีกเลี่ยงการผสมน้ำเพิ่มที่หน้างาน
เพราะจะทำให้ส่วนผสมคอนกรีตเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลให้คอนกรีตเกิดการแยกตัว
ขณะเทคอนกรีต เกิดปัญหาคอนกรีตเป็นฝุ่นที่ผิวหน้า เกิดปัญหาค่ากำลังอัดต่ำกว่าค่าการรับรอง
2. ในระหว่างการเทคอนกรีต ควรมีการลำเลียงคอนกรีตอย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยคอนกรีตจากที่สูง
เพื่อป้องกันการแยกตัวของคอนกรีต รวมทั้งการทำคอนกรีตให้แน่น อย่างเหมาะสม
เพื่อให้คอนกรีตเข้าแบบหล่อได้อย่างสมบูรณ์ เป็นเนื้อเดียวกัน
ไม่เกิดรูพรุนเมื่อคอนกรีตแข็งตัวแล้ว
3. หลังจากที่คอนกรีตแข็งตัวแล้ว ควรมีการบ่มคอนกรีตที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำของคอนกรีต
ส่งผลให้ ลดปัญหาในเรื่องของการแตกร้าวของคอนกรีตเนื่องจากการหดตัว และทำให้การพัฒนากำลังอัดคอนกรีตเกิดได้อย่างสมบูรณ์
คอนกรีตกันซึม
คุณสมบัติ
คอนกรีตชนิดนี้ เป็นคอนกรีตที่ถูกออกแบบมาให้มีความทึบน้ำ
มากกว่าคอนกรีตปกติ โดยมีค่าการซึมผ่านของน้ำในระดับต่ำ ตามมาตรฐาน DIN 1048 ส่วนผสมคอนกรีตประเภทนี้มีการผสมน้ำยาประเภทกันซึม
ลดปริมาณน้ำที่ใช้ในส่วนผสม และหน่วงการก่อตัว ตามมาตรฐาน ASTM C 494
ขั้นตอนการทำงาน
คอนกรีตประเภทนี้ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการป้องกันการซึมผ่านของน้ำ
มากกว่าคอนกรีตปกติ เช่นบ่อเก็บน้ำ สระน้ำ อาคารใต้ดิน พื้นดาดฟ้าของอาคาร เป็นต้น
มีค่ากำลังอัดตั้งแต่ 210-450
กก./ตร.ซม. ที่อายุ 28 วัน และค่าความยุบตัวของคอนกรีตขนาดต่างๆ
ตามความต้องการของลูกค้า
ข้อแนะนำ
โครงสร้างคอนกรีตที่ต้องการความทึบน้ำ
มากกว่าคอนกรีตปกติ นอกจากจะใช้คอนกรีตที่ถูกออกแบบสำหรับการต้านทานการซึมผ่านของน้ำแล้ว
ยังขึ้นอยู่กับวิธีการก่อสร้างที่เหมาะสม เช่น ไม่ทำการผสมน้ำเพิ่มที่หน้างานก่อสร้าง
การทำคอนกรีตให้แน่นเพื่อให้คอนกรีตมีความสม่ำเสมอ เป็นเนื้อเดียวกัน และการบ่มคอนกรีตเพื่อให้คอนกรีตมีการพัฒนากำลังอัดได้อย่างสมบูรณ์
ลดความพรุนภายในเนื้อคอนกรีต
คอนกรีต
Topping
คุณสมบัติ
คอนกรีตประเภทนี้ ถูกออกแบบส่วนผสมตามค่ากำลังอัดที่อายุ
28 วัน
และ ค่าการยุบตัวสำหรับงานเทคอนกรีตทั่วไป และงานเทคอนกรีตด้วยปั๊ม โดยส่วนผสมแปรผันตามค่าอัตราส่วนน้ำต่อซีเมนต์
รวมทั้งมีการผสมคอนกรีตด้วยสารลดน้ำและหน่วงการก่อตัว ตามมาตรฐาน ASTM C
494 ทำให้คอนกรีตมีความสามารถในการทำงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงระยะเวลาการทำงาน
สำหรับงานคอนกรีตที่นานขึ้น คอนกรีตประเภทนี้ ถูกออกแบบให้แตกต่างจากคอนกรีตปกติ โดยออกแบบให้ส่วนผสมมีส่วนละเอียดมากกว่าคอนกรีตปกติ
เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องหินโผล่ที่ผิวหน้าคอนกรีต ในขั้นตอนของการขัดผิวหน้าคอนกรีต
หรือออกแบบส่วนผสมโดยใช้หินขนาด 3/8 นิ้ว
ขั้นตอนการทำงาน
คอนกรีตประเภทนี้ถูกออกแบบส่วนผสมมา
เพื่อใช้กับงานเท Topping
โดยรับรองค่ากำลังอัดตามที่ลูกค้ากำหนดที่อายุ 28 วัน สำหรับค่าการยุบตัวสำหรับงานทั่วไป และงานคอนกรีตที่เทด้วยปั๊ม
ข้อแนะนำ
1. หลีกเลี่ยงการผสมน้ำเพิ่มที่หน้า
งาน เพราะจะทำให้ส่วนผสมคอนกรีตเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลให้คอนกรีตเกิดการแยกตัว
ขณะเทคอนกรีต เกิดปัญหาคอนกรีตเป็นฝุ่นที่ผิวหน้า เกิดปัญหาค่ากำลังอัดต่ำกว่าค่าการรับรอง
เป็นต้น
2. ในระหว่างการเทคอนกรีต ควรมีการลำเลียงคอนกรีตอย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยคอนกรีตจากที่สูงเพื่อป้องกันการแยกตัวของคอนกรีต
รวมทั้งการจี้เขย่าคอนกรีตอย่างเหมาะสม เพื่อให้คอนกรีตเข้าแบบหล่อได้อย่างสมบูรณ์
เป็นเนื้อเดียวกันไม่เกิดรูพรุนเมื่อคอนกรีตแข็งตัวแล้ว
3. หลังจากที่คอนกรีตแข็งตัวแล้ว ควรมีการบ่มคอนกรีตที่เหมาะสม
เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำของคอนกรีต ส่งผลให้ลดปัญหา ในเรื่องของการแตกร้าวของคอนกรีตเนื่องจากการหดตัว
และทำให้การพัฒนากำลังอัดคอนกรีตเกิดได้อย่างสมบูรณ์
มอร์ตาร์
คอนกรีต
คุณสมบัติ
มอร์ตาร์ เป็นส่วนผสมระหว่างปูนซีเมนต์
ทราย น้ำ และน้ำยาผสมคอนกรีต ประเภทลดปริมาณน้ำที่ใช้ในส่วนผสม และหน่วงการก่อตัว
ตามมาตรฐาน ASTM C 494
ขั้นตอนการทำงาน
มอร์ตาร์
ถูกออกแบบเพื่อใช้สำหรับงานเทปรับระดับพื้นผิวคอนกรีต ที่ไม่ต้องการกำลังอัด หรือ เทหล่อเลี้ยงท่อก่อนการลำเลียงคอนกรีตโดยการใช้ปั๊ม
ปัจจุบันมีสินค้าให้เลือกตามปริมาณซีเมนต์ในส่วนผสมตั้งแต่ 300 กก. จนถึง
450 กก. ที่ค่าการยุบตัว 5.0-10.0 ซม.
ข้อแนะนำ
หลีกเลี่ยงการผสมน้ำเพิ่มที่หน้างาน
สำหรับมอร์ตาร์ที่นำไปใช้ในงานเทปรับระดับพื้นผิวคอนกรีต เพื่อป้องกันปัญหาการเกิดฝุ่นที่ผิวหน้า
เมื่อมอร์ตาร์แข็งตัวแล้ว รวมทั้งการบ่มชื้นบริเวณผิวปรับระดับ
เพื่อลดปัญหาในเรื่องของการแตกร้าว
คอนกรีตงานเข็มเจาะเล็ก
คุณสมบัติ
คอนกรีตประเภทนี้ ถูกออกแบบส่วนผสมตามค่ากำลังอัดที่อายุ
28 วัน และค่าการยุบตัวสำหรับงานเทเข็มเจาะขนาดเล็ก
โดยมีการผสมคอนกรีตด้วยสารลดน้ำและหน่วงการก่อตัว ตามมาตรฐาน ASTM C 494 ทำให้คอนกรีตมีความสามารถในการทำงานเพิ่มขึ้น
ไม่เกิดการแยกตัวขณะเทคอนกรีต รวมถึงเพิ่มอายุการทำงานของคอนกรีตมากกว่า 3 ชั่วโมง เพื่อให้เหมาะสมกับงานเข็มเจาะขนาดเล็กเนื่องจากคอนกรีตประเภทนี้ มีระยะเวลาการแข็งตัวที่ช้ากว่าคอนกรีตปกติ
ทำให้การพัฒนากำลังอัดในช่วงต้นของคอนกรีตประเภทนี้ต่ำกว่าคอนกรีตโดยทั่วไป
ขั้นตอนการทำงาน
คอนกรีตประเภทนี้ ถูกออกแบบเพื่องานเทเสาเข็มเจาะขนาดเล็ก
โดยมีค่ากำลังอัดตั้งแต่ 210
– 400 กก./ตร.ซม. ที่ค่าการยุบตัว 7.5 - 12.5 ซม.
ข้อแนะนำ
1. หลีกเลี่ยงการผสมน้ำเพิ่มที่หน้า
งาน เพราะจะทำให้ส่วนผสมคอนกรีตเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลให้คอนกรีตเกิดการแยกตัว
ขณะเทคอนกรีต เกิดปัญหาคอนกรีตเป็นฝุ่นที่ผิวหน้า เกิดปัญหาค่ากำลังอัดต่ำกว่าค่าการรับรอง
เป็นต้น
2. ในระหว่างการเทคอนกรีต ควรมีการลำเลียงคอนกรีตอย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยคอนกรีตจากที่สูงเพื่อป้องกันการแยกตัวของคอนกรีต
รวมทั้งการทำคอนกรีตให้แน่นอย่างเหมาะสม เพื่อให้คอนกรีตเข้าแบบหล่อได้อย่างสมบูรณ์
เป็นเนื้อเดียวกันไม่เกิดรูพรุนเมื่อคอนกรีตแข็งตัวแล้ว
คอนกรีตงานเข็มเจาะใหญ่
คุณสมบัติ
คอนกรีตประเภทนี้ ถูกออกแบบส่วนผสมตามค่ากำลังอัดที่อายุ
28 วัน และค่าการยุบตัวสำหรับงานเทเข็มเจาะขนาดใหญ่
โดยมีการผสมคอนกรีตด้วยหน่วงการก่อตัว และลดปริมาณน้ำในส่วนผสม ตามมาตรฐาน
ASTM C 494 ทำให้คอนกรีตมีความสามารถในการทำงานเพิ่มขึ้น ไม่เกิดการแยกตัวขณะเทคอนกรีต
รวมถึงเพิ่มอายุการทำงานของคอนกรีตมากกว่า 4 ชั่วโมง 30
นาที เพื่อให้เหมาะสมกับงานเข็มเจาะขนาดใหญ่ เนื่องจากคอนกรีตประเภทนี้มีระยะเวลาการแข็งตัวที่ช้ากว่าคอนกรีตปกติ
ทำให้การพัฒนากำลังอัดในช่วงต้นของคอนกรีตประเภทนี้ต่ำกว่าคอนกรีตโดยทั่วไป
ขั้นตอนการทำงาน
คอนกรีตสำหรับงานเข็มเจาะขนาดใหญ่
เนื้อคอนกรีตถูกออกแบบมาให้มีค่าความยุบตัวสูง และไม่แยกตัวขณะเทคอนกรีต นอกจากนี้
ยังออกแบบให้มีอายุการใช้งานที่นานกว่าคอนกรีตปกติ ซึ่งมั่นใจได้ว่าเสาเข็มเจาะใหญ่แต่ละต้นจะมีคุณภาพดีตั้งแต่เริ่มต้นจน
กระทั่งจบงาน โดยมีค่ากำลังอัดตั้งแต่ 280– 400 กก./ตร.ซม. ที่ค่าการยุบตัว
17.5-22.5 ซม.
ข้อแนะนำ
1. หลีกเลี่ยงการผสมน้ำเพิ่มที่หน้า
งาน เพราะจะทำให้ส่วนผสมคอนกรีตเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลให้คอนกรีตเกิดการแยกตัว
ขณะเทคอนกรีต เกิดปัญหาคอนกรีตเป็นฝุ่นที่ผิวหน้า เกิดปัญหาค่ากำลังอัดต่ำกว่าค่าการรับรอง
เป็นต้น
2. ในระหว่างการเทคอนกรีต ควรมีการลำเลียงคอนกรีตอย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยคอนกรีตจากที่สูงเพื่อป้องกันการแยกตัวของคอนกรีต
รวมทั้งการทำคอนกรีตให้แน่นอย่างเหมาะสม เพื่อให้คอนกรีตเข้าแบบหล่อได้อย่างสมบูรณ์
เป็นเนื้อเดียวกันไม่เกิดรูพรุนเมื่อคอนกรีตแข็งตัวแล้ว
คอนกรีตอัดแรง
คุณสมบัติ
คอนกรีตประเภทนี้ ได้ออกแบบให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการกำลังอัดในช่วงต้นสูง
ในขณะที่ต้องคงคุณสมบัติที่ดีในด้านอื่น เช่น ค่าการยุบตัว ระยะเวลาการก่อตัว
ส่วนผสมคอนกรีตประเภทนี้มีการผสม สารลดปริมาณน้ำที่ใช้ในส่วนผสมและหน่วงการก่อตัว หรือสารลดปริมาณน้ำอย่างมาก
ตามมาตรฐาน ASTM C 494 ขึ้นอยู่กับค่ากำลังอัดและค่าการยุบตัวที่ต้องการ การพัฒนากำลังอัดของคอนกรีต
จะแตกต่างจากคอนกรีตสำหรับงานโครงสร้างทั่วไป เนื่องจากคอนกรีตสำหรับงานคอนกรีตอัดแรง
จำเป็นต้องมีการพัฒนากำลังอัดในช่วงอายุ 3-7 วัน ซึ่งสูงกว่าคอนกรีตปกติเพื่อให้เหมาะสมกับการก่อสร้าง
ขั้นตอนการทำงาน
คอนกรีตชนิดนี้เหมาะสมกับ งานคอนกรีตอัดแรงประเภท
Post – tension ที่ต้องการกำลังอัดเพื่อการอัดแรงที่อายุ 3 วัน
ที่ค่ากำลังอัด 240 280 และ 320 กก/ตร.ซม.
หรือ ที่อายุและค่ากำลังอัดตามที่ลูกค้ากำหนด สำหรับค่าความยุบตัวสำหรับงานเทคอนกรีตทั่วไป
และงานเทคอนกรีตด้วยปั๊ม
ข้อแนะนำ
1. หลีกเลี่ยงการผสมน้ำเพิ่มที่หน้า
งาน เพราะจะทำให้ส่วนผสมคอนกรีตเกิดการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้คอนกรีตเกิดการแยกตัว
ขณะเทคอนกรีต เกิดปัญหาคอนกรีตเป็นฝุ่นที่ผิวหน้า เกิดปัญหาค่ากำลังอัดต่ำกว่าค่าการรับรอง
เป็นต้น
2. ในระหว่างการเทคอนกรีต ควรมีการลำเลียงคอนกรีตอย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยคอนกรีตจากที่สูงเพื่อป้องกันการแยกตัวของคอนกรีต
รวมทั้งการทำคอนกรีตให้แน่นอย่างเหมาะสม เพื่อให้คอนกรีตเข้าแบบหล่อได้อย่างสมบูรณ์
เป็นเนื้อเดียวกันไม่เกิดรูพรุนเมื่อคอนกรีตแข็งตัวแล้ว
3. หลังจากที่คอนกรีตแข็งตัวแล้ว ควรมีการบ่มคอนกรีต
เพื่อลดปัญหาในเรื่องของ การแตกร้าวของคอนกรีต เนื่องจากการหดตัว
คอนกรีตแข็งตัวเร็ว
คุณสมบัติ
เป็นคอนกรีตที่ถูกพัฒนามาเพื่องานที่ ต้องการกำลังอัด
ที่กำหนดในช่วงระยะสั้น โดยส่วนผสมคอนกรีตประเภทนี้จะใช้น้ำยาผสมคอนกรีตประเภทลดน้ำอย่างมาก
ตามมาตรฐาน ASTM C 494 คอนกรีตประเภทนี้จะมีระยะเวลาการแข็งตัวที่เร็วกว่าคอนกรีตปกติ
ทำให้คอนกรีตสามารถพัฒนากำลังอัดในช่วงต้นได้ดี
ขั้นตอนการทำงาน
คอนกรีตประเภทนี้ใช้สำหรับงานซ่อมแซม ผิวถนน
ที่ต้องการกำลังอัดสูงในช่วงต้น งานที่ต้องการเปิดหน้างานเร็ว งานหล่อชิ้นส่วนสำเร็จรูป
เป็นต้น โดยทั่วไปคอนกรีตชนิดนี้จะถูกออกแบบมาให้สามารถพัฒนากำลังอัดได้ตามค่าที่ ต้องการภายในระเวลา
8-24 ชั่วโมง
ข้อแนะนำ
1. หลีกเลี่ยงการผสมน้ำเพิ่มที่หน้า
งาน เพราะจะทำให้ส่วนผสมคอนกรีตเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลให้คอนกรีตเกิดการแยกตัว
ขณะเทคอนกรีต เกิดปัญหาคอนกรีตเป็นฝุ่นที่ผิวหน้า เกิดปัญหาค่ากำลังอัดต่ำกว่าค่าการรับรอง
เป็นต้น
2. หลีกเลี่ยงการเทคอนกรีต ในที่อากาศร้อนจัด เพื่อป้องกันการสูญเสียค่าการยุบตัวของคอนกรีตอย่างรวดเร็ว
และการแตกร้าวเนื่องจากการสูญเสียน้ำในเนื้อคอนกรีต
3. ในระหว่างการเทคอนกรีต ควรมีการลำเลียงคอนกรีตอย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยคอนกรีตจากที่สูงเพื่อป้องกันการแยกตัวของคอนกรีต
รวมทั้งการทำคอนกรีตให้แน่นอย่างเหมาะสม เพื่อให้คอนกรีตเข้าแบบหล่อได้อย่างสมบูรณ์
เป็นเนื้อเดียวกันไม่เกิดรูพรุนเมื่อคอนกรีตแข็งตัวแล้ว
4. หลังจากที่คอนกรีตแข็งตัวแล้ว ควรมีการบ่มคอนกรีตที่เหมาะสม
เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำของคอนกรีต ส่งผลให้ลดปัญหา ในเรื่องของการแตกร้าวของคอนกรีตเนื่องจากการหดตัว
และทำให้การพัฒนากำลังอัดคอนกรีตเกิดได้อย่างสมบูรณ์
คอนกรีตต้านทานซัลเฟต
คุณสมบัติ
คอนกรีตต้านทานซัลเฟตพัฒนาขึ้นเพื่อ ใช้สำหรับ
งานโครงสร้างที่ต้องทนทานต่อซัลเฟตโดยเฉพาะ โดยอาศัยหลักสำคัญ 2 ประการคือุ + ออกแบบโดย ใช้ค่าอัตราส่วนน้ำต่อซีเมนต์ ต่ำกว่า
0.50 ตามมาตรฐาน ACI 201.2R Durable Concrete เพื่อให้ได้คอนกรีตที่มีการซึมผ่านของน้ำและสารเคมีต่ำ ุ + เลือกใช้สัดส่วนผสมคอนกรีตที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิด secondary
enttringite และแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ อันเป็นผลให้เกิด แมกนีเซียมซิลิเกตไฮเดรท
ซึ่งจะทำให้คอนกรีตแตกร้าวเสียหายได้นอกเหนือจากนี้ ยังเลือกใช้วัสดุผสมคอนกรีต
ที่ถูกต้องตามมาตรฐาน ASTM C33 กำหนดเพื่อให้ได้คอนกรีตที่มีคุณภาพดี
ตามที่ได้ออกแบบไว้
ขั้นตอนการทำงาน
คอนกรีตชนิดนี้ ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับโครงสร้างที่สัมผัสกับสารละลายซัลเฟต
เช่น งานบ่อบำบัดน้ำเสีย โครงสร้างที่ต้องสัมผัสกับดินเค็ม ค่ากำลังอัดของคอนกรีตมีให้เลือกตั้งแต่
180-450 กก./ตร.ซม. ที่อายุ 28
วัน สำหรับค่าความยุบตัวสำหรับงานเทคอนกรีตทั่วไป 5.0-10.0 ซม. และสำหรับงานเทคอนกรีตด้วยปั๊ม 7.5-12.5 ซม.
ข้อแนะนำ
1. หลีกเลี่ยงการผสมน้ำเพิ่มที่หน้า
งาน เพราะจะทำให้ส่วนผสมคอนกรีตเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลให้คอนกรีตเกิดการแยกตัว
ขณะเทคอนกรีต เกิดปัญหาคอนกรีตเป็นฝุ่นที่ผิวหน้า เกิดปัญหาค่ากำลังอัดต่ำกว่าค่าการรับรอง
ปัญหาในเรื่องความสามารถในการต้านทานซัลเฟตของคอนกรีตลดลง เนื่องจากคอนกรีตมีความทึบน้ำน้อยลง
มีความพรุนเพิ่มขึ้น
2. ในระหว่างการเทคอนกรีต ควรมีการลำเลียงคอนกรีตอย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยคอนกรีตจากที่สูงเพื่อป้องกันการแยกตัวของคอนกรีต
รวมทั้งการทำคอนกรีตให้แน่นอย่างเหมาะสม เพื่อให้คอนกรีตเข้าแบบหล่อได้อย่างสมบูรณ์
เป็นเนื้อเดียวกันไม่เกิดรูพรุนเมื่อคอนกรีตแข็งตัวแล้ว ทำให้คอนกรีตมีความทึบน้ำมากขึ้น
ส่งผลให้การต้านทานซัลเฟตเพิ่มขึ้น
3. หลังจากที่คอนกรีตแข็งตัวแล้ว ควรมีการบ่มคอนกรีตที่เหมาะสม
เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำของคอนกรีต ส่งผลให้ลดปัญหาในเรื่องของ การแตกร้าวของคอนกรีต
เนื่องจากการหดตัว และทำให้การพัฒนากำลังอัดคอนกรีตเกิดได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้คอนกรีตมีความทึบน้ำมากขึ้น
ส่งผลให้การต้านทานซัลเฟตเพิ่มขึ้น
คอนกรีตทนน้ำเค็ม
คุณสมบัติ
ในน้ำเค็มจะมีสารประกอบหลักที่สำคัญ
คือคลอไรด์ โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยโซเดียมคลอไรด์ แมกนีเซียมคลอไรด์ แคลเซียมคลอไรด์
ดังนั้น ในการออกแบบคอนกรีตทนน้ำเค็ม จึงอาศัยหลักการป้องกันการซึมผ่านของสารครอไรด์
และการจับยึด ไม่ให้คลอไรด์เข้าไปทำปฏิกิริยากับเหล็กเสริมจนเป็นสนิม โดยทั่วไป สามารถแบ่งสภาพแวดล้อม
การสัมผัสกับบรรยากาศทะเล ของโครงสร้างคอนกรีตได้สี่สภาวะดังนี้
+ สภาวะที่ 1 โครงสร้างสัมผัสกับไอทะเล
+ สภาวะที่ 2 โครงสร้างสัมผัสกับคลื่นชายฝั่ง
+ สภาวะที่ 3 โครงสร้างอยู่ในช่วงน้ำขึ้นน้ำลง
+ สภาวะที่ 4 โครงสร้างจมอยู่ใต้น้ำทะเล
จากสี่สภาวะนี้ สภาวะที่ 2 และ 3 เป็นสภาวะที่คอนกรีตจะเกิดความเสียหายรุนแรงที่สุด ซึ่งลักษณะการเสียหายของคอนกรีตที่สัมผัสกับน้ำเค็ม
จะเป็นการเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากการเป็นสนิมของเหล็กเสริม และเมื่อเหล็กเสริมเป็นสนิม
จะเกิดการขยายตัว และทำให้คอนกรีตแตกร้าวเสียหาย ดังนั้นในการออกแบบ จึงต้องกำหนดให้มีค่าอัตราส่วนน้ำต่อซีเมนต์ที่ต่ำกว่า
0.45 และเลือกใช้วัสดุผสมและสัดส่วนผสมที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่า
คอนกรีตทนน้ำเค็มมีคุณภาพดีตามที่ได้ออกแบบ นอกจากนี้ ระยะหุ้มเหล็กเสริมสำหรับงานคอนกรีตโครงสร้าง
ที่อยู่ในสภาวะดังกล่าวควรจะไม่น้อยกว่า 7 ซม. ตามข้อกำหนดสำหรับงานออกแบบของวิศวกรรมสถานแห่งชาติ
เพื่อให้แน่ใจได้ว่า โครงสร้างคอนกรีตที่ทำการก่อสร้าง จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ขั้นตอนการทำงาน
คอนกรีตชนิดนี้ ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับโครงสร้างที่สัมผัสกับน้ำทะเล
หรือ โครงสร้างที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเล ค่ากำลังอัดของคอนกรีตมีให้เลือกตั้งแต่ 180-450 กก./ตร.ซม.
ที่อายุ 28 วัน สำหรับค่าความยุบตัวสำหรับงานเทคอนกรีตทั่วไป
5.0-10.0 ซม. และสำหรับงานเทคอนกรีตด้วยปั๊ม 7.5-12.5
ซม.
ข้อแนะนำ
1. หลีกเลี่ยงการผสมน้ำเพิ่มที่หน้า
งาน เพราะจะทำให้ส่วนผสมคอนกรีตเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลให้คอนกรีตเกิดการแยกตัว
ขณะเทคอนกรีต เกิดปัญหาคอนกรีตเป็นฝุ่นที่ผิวหน้า เกิดปัญหาค่ากำลังอัดต่ำกว่าค่าการรับรอง
ปัญหาในเรื่องความสามารถในการต้านทานคลอไรด์ของคอนกรีตลดลง เนื่องจากคอนกรีตมีความทึบน้ำน้อยลง
มีความพรุนเพิ่มขึ้น
2. ในระหว่างการเทคอนกรีต ควรมีการลำเลียงคอนกรีตอย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยคอนกรีตจากที่สูงเพื่อป้องกันการแยกตัวของคอนกรีต
รวมทั้งการทำคอนกรีตให้แน่นอย่างเหมาะสม เพื่อให้คอนกรีตเข้าแบบหล่อได้อย่างสมบูรณ์
เป็นเนื้อเดียวกันไม่เกิดรูพรุนเมื่อคอนกรีตแข็งตัวแล้ว ทำให้คอนกรีตมีความทึบน้ำมากขึ้น
ส่งผลให้การต้านทานคลอไรด์เพิ่มขึ้น
3. หลังจากที่คอนกรีตแข็งตัวแล้ว ควรมีการบ่มคอนกรีตที่เหมาะสม
เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำของคอนกรีต ส่งผลให้ลดปัญหาในเรื่องของ การแตกร้าวของคอนกรีต
เนื่องจากการหดตัว และทำให้การพัฒนากำลังอัดคอนกรีตเกิดได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้คอนกรีตมีความทึบน้ำมากขึ้น
ส่งผลให้การต้านทานคลอไรด์เพิ่มขึ้น
คอนกรีตห้องเย็น
คุณสมบัติ
คอนกรีตประเภทนี้
ถูกออกแบบสำหรับ โครงสร้างที่ต้องสัมผัสกับอุณหภูมิที่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง และมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างฉับพลันอยู่สม่ำเสมอ
โดยการเพิ่มปริมาณฟองอากาศในเนื้อคอนกรีต เพื่อรองรับการขยายตัวของน้ำในเนื้อคอนกรีต
เนื่องจากน้ำมีการเปลี่ยนแปลงปริมาตร เมื่อน้ำมีการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นของแข็ง
ส่วนผสมของคอนกรีตประเภทนี้มีการผสมน้ำยากักกระจายฟองอากาศ ตามมาตรฐาน ASTM C 260 เพื่อเพิ่มฟองอากาศภายในเนื้อคอนกรีต
และสารลดปริมาณน้ำและหน่วงการก่อตัว ตามมาตรฐาน ASTM C 494 เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานได้
รวมถึงระยะเวลาการทำงานสำหรับงานคอนกรีตที่นานขึ้น
ขั้นตอนการทำงาน
คอนกรีตประเภทนี้เหมาะสำหรับงาน
เช่น ห้องแช่แข็ง ห้องเย็น สำหรับค่ากำลังอัดและค่าการยุบตัวขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า
ข้อแนะนำ
1. หลีกเลี่ยงการผสมน้ำเพิ่มที่หน้า
งาน เพราะจะทำให้ส่วนผสมคอนกรีตเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลให้คอนกรีตเกิดการแยกตัว
ขณะเทคอนกรีต เกิดปัญหาคอนกรีตเป็นฝุ่นที่ผิวหน้า เกิดปัญหาค่ากำลังอัดต่ำกว่าค่าการรับรอง
เป็นต้น
2. ในระหว่างการเทคอนกรีต ควรมีการลำเลียงคอนกรีตอย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยคอนกรีตจากที่สูงเพื่อป้องกันการแยกตัวของคอนกรีต
รวมทั้งการจี้เขย่าคอนกรีตอย่างเหมาะสม เพื่อให้คอนกรีตเข้าแบบหล่อได้อย่างสมบูรณ์
เป็นเนื้อเดียวกันไม่เกิดรูพรุนเมื่อคอนกรีตแข็งตัวแล้ว
3. การเทคอนกรีตประเภทนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเทในที่ปิด เพราะคอนกรีตประเภทนี้
ให้ความร้อนในการทำปฏิกิริยาสูง เนื่องจากปริมาณปูนซีเมนต์ที่ใช้ในส่วนผสมคอนกรีต มีปริมาณสูงกว่าส่วนผสมของคอนกรีตปกติ
เพื่อชดเชยในเรื่องของกำลังอัดที่สูญเสียไปเนื่องจากฟองอากาศในเนื้อคอนกรีต ที่เพิ่มมากขึ้น
4. หลังจากที่คอนกรีตแข็งตัวแล้ว ควรมีการบ่มคอนกรีตที่เหมาะสม
เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำของคอนกรีต ส่งผลให้ลดปัญหา ในเรื่องของการแตกร้าว
ของคอนกรีตเนื่องจากการหดตัว และทำให้การพัฒนากำลังอัดคอนกรีตเกิดได้อย่างสมบูรณ์
ข้อมูลจาก
ศูนย์วิชาการคอนกรีตซีแพค
http://www.cpacacademy.com/
*********************************
https://www.facebook.com/smarthomeconcrete/
http://www.smarthomeconcrete.com
http://www.lionmaterialsupply.com/
https://smarthmoeconcrete.blogspot.com/
คอนกรีตผสมเสร็จ,คอนกรีตผสมเสร็จราคาถูก,ราคาคอนกรีตผสมเสร็จ,ปูนผสมเสร็จ,จำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จ, ขายคอนกรีตผสมเสร็จ,ราคาคอนกรีตสำเร็จรูป, คอนกรีตราคาถูก,ผลิตภัณฑ์คอนกรีต,คอนกรีตมิกซ์,ปูนมิกซ์, ปูนคอนกรีต,คอนกรีตคืออะไร,คอนกรีตผสมเสร็จคืออะไร,คอนกรีตรถปูนโม่ใหญ่,คอนกรีตรถปูนโม่เล็ก,ราคาคอนกรีตผสมเสร็จ2561,ราคาคอนกรีตผสมเสร็จ2562,ราคาคอนกรีตหยาบLean,ราคาคอนกรีตผสมเสร็จ180ksc,ราคาคอนกรีตผสมเสร็จ210ksc,ราคาคอนกรีตผสมเสร็จ 240ksc,ราคาคอนกรีตผสมเสร็จ 280ksc,ราคาคอนกรีตผสมเสร็จ 320ksc,ราคาคอนกรีตผสมเสร็จ 2560,NAMHENG,TPI,BORAL,FAST, INSEE,SV,V,POC,Qmix,CONCRETE,ชลประทานคอนกรีต,เอเชียผลิตภัณฑ์ซีเมนต์,ผลิตภัณฑ์คอนกรีต,กาญจนาคอนกรีต,ฟาสท์คอนกรีต,น่ำเฮงคอนกรีต,วีคอนกรีต,เอสวีคอนกรีต,พีโอซีคอนกรีต,คอนกรีตคิวมิกซ์,คอนกรีตตรานกอินทรี,นครหลวง,บัวคอนกรีต,คอนกรีตปูนตราช้าง,ปูนนกอินทรี,ปูนดอกบัว,ปูนพญานาค,คอนกรีตผสมเสร็จกรุงเทพฯ,คอนกรีตผสมเสร็จนนทบุรี,คอนกรีตผสมเสร็จปทุมธานี,คอนกรีตผสมเสร็จสมุทรปราการ,คอนกรีตผสมเสร็จสมุทรสาคร,รถปั๊มคอนกรีต,รถปั๊มบูม,รถปั๊มลากจูง,บริการให้เช่ารถปั๊มคอนกรีต,PumpCONCRETE,PumpDee
********
รายได้ส่วนหนึ่งจากการขาย คอนกรีตผสมเสร็จ เราจะทำบุญบริจาคทาน ในทุกๆเดือน และ ท่านที่ซื้อคอนกรีตกับเราก็มีส่วนรวมในการทำบุญบริจาคทานนี้ด้วยนะครับ และท่านที่ใช้คอนกรีตกับเราขอให้มีความสุขมีความมั่งคงทุกๆท่านครับและเราก็ขออนุโมทนาบุญกับท่านด้วยครับ ขอให้ท่านจงมีแต่ความสุข ความสบายใจ อิ่มใจ สุขใจ มีความเจริญ ร่ำรวย รุ่งเรื่อง ตลอดไปปครับ ขอบคุณนะครับที่ใช้บริการเรา ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณครับ